6 ปัจจัยยกระดับบริการขนส่งสินค้า คนขับปลอดภัย ธุรกิจไม่สะดุด

     สำหรับธุรกิจบริการขนส่งสินค้าแล้ว รถบรรทุกถือเป็นยานพาหนะที่มีส่วนสำคัญในการขนส่งอย่างมาก เพราะสามารถขนส่งสินค้าจากต้นทางไปยังปลายทางได้อย่างราบรื่น รวมทั้งยังเป็นตัวช่วยในการขนส่งสินค้าเพื่อเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสามารถก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดในการดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้การขนส่งเป็นตัวขับเคลื่อน และให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด เรามี 6 ปัจจัยยกระดับบริการขนส่งสินค้าที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ปลอดภัย ขนส่งได้รวดเร็ว และธุรกิจดำเนินไปได้อย่างไม่มีสะดุดมาแนะนำกัน
     1. ความพร้อมในการให้บริการ
การเตรียมความพร้อมก่อนให้บริการขนส่งสินค้า เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่พนักงานขับขี่และลูกค้าที่รอรับสินค้า รวมถึงธุรกิจที่ใช้บริการขนส่งสินค้าเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ทีมงานที่ดูแลด้านความปลอดภัยจะใช้ระบบจัดการเส้นทางช่วยสำรวจเส้นทางเดินรถ และหาจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุตลอดเส้นทาง และนำมาใช้ประกอบการวิเคราะห์เพื่อบริหารความเสี่ยง รวมถึงวางแผนการเดินรถที่รัดกุม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่งสินค้า
     2. ความพร้อมของยานพาหนะ
สมรรถภาพที่สมบูรณ์ของรถขนส่งสินค้า นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริการขนส่งสินค้าสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ดอกยาง ลมยาง รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องติดตั้งไว้บนรถ เช่น ระบบจัดการการขนส่ง (TMS) ก็ควรติดตั้งไว้ให้พร้อมใช้งานได้ทันที
     3. ความพร้อมของพนักงานขับขี่
เมื่อยานพาหนะพร้อม คนขับก็ต้องพร้อมทั้งกายและใจเช่นกัน ดังนั้นการพัฒนาพนักงานขับขี่ให้มีความพร้อมต่อการปฏิบัติงานอยู่เสมอ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย ผู้ประกอบการที่ให้บริการขนส่งสินค้า อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือการตรวจสอบสุขภาพของเหล่าพนักงานขับรถ ว่ามีความพร้อมต่อการขับขี่รถยนต์หรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันสิ่งที่ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น
     4. ระบบบริหารจัดการขนส่ง
ระบบบริหารจัดการขนส่ง (TMS) เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกผู้ให้บริการด้านการขนส่งจากปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนน พร้อมกับช่วยส่งเสริมการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย เพื่อการให้บริการขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่การยืนยันคำสั่งการขนส่ง ตรวจสอบสถานะการขนส่ง บริหารจัดการเส้นทาง ทั้งยังสามารถติดตามสถานะการขนส่งได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เมื่อเกิดสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จะได้ดำเนินการหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
     5. ระบบติดตามพฤติกรรมการขับขี่
นอกจากการติดตั้งระบบบริหารจัดการขนส่ง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการขนส่งสินค้าแล้ว จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสอดส่องได้ว่าพนักงานขับขี่มีการขับยานพาหนะด้วยความเร็วที่เกินกำหนดหรือไม่ รวมถึงยังสามารถช่วยตรวจสอบว่าผู้ขับขี่มีอาการง่วงซึมขณะขับรถหรือไม่ เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย มีวินัย และเคารพในกฎจราจรมากยิ่งขึ้น
     6. ทบทวนสาเหตุของอุบัติเหตุ
เพราะการเกิดอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก ถึงแม้ผู้ประกอบการจะเตรียมความพร้อมในทุกด้านตามที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ ผู้ประกอบการควรนำอุบัติที่เหตุที่เกิดขึ้นมาใช้เป็นบทเรียน รวมถึงต้องดำเนินการตรวจสอบ และวิเคราะห์หาสาเหตุ เพื่อหาแนวทางป้องกันที่ดีขึ้นกว่าเดิมต่อไป
ทั้ง 6 ปัจจัยนี้คือ กุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนนให้แก่ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าได้ ซึ่งหนึ่งในตัวช่วยเพื่อให้ผู้ประกอบสามารถบรรลุเป้าหมายการลดอุบัติเหตุ และการขนส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย คือการเลือกใช้บริการโซลูชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า

แหล่งที่มา : SCG Logistics
แหล่งอ้างอิง : https://www.scglogistics.co.th/…/6-factors-to-improve…/

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top